ข้อเท็จจริงสำคัญ
- เปิดตัวอย่างเป็นทางการ: ประกาศเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2025 เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Matrice 4 ใหม่ของ DJI (พร้อมรุ่น 4E และ 4T) enterprise.dji.com. Matrice 4E เป็นโดรนองค์กรเรือธงขนาดกะทัดรัดที่เน้นการสำรวจ การทำแผนที่ และการตรวจสอบ ในขณะที่ 4T เพิ่มกล้องถ่ายภาพความร้อนสำหรับงานด้านความปลอดภัยสาธารณะและปฏิบัติการกลางคืน geoweeknews.com ts2.tech.
- เพย์โหลดมัลติเซนเซอร์แบบบูรณาการ: Matrice 4E มาพร้อมกับกิมบอลกล้องสามตัว: กล้องมุมกว้าง 20 MP (เซนเซอร์ 4/3″ CMOS, ชัตเตอร์กลไก), กล้องเทเลโฟโต้กลาง 48 MP (เทียบเท่า 70 มม.), และกล้องเทเลโฟโต้ 48 MP (168 มม.) enterprise.dji.com. นอกจากนี้ยังมีเลเซอร์เรนจ์ไฟน์เดอร์สำหรับวัดระยะทางอย่างแม่นยำได้ไกลถึง 1.8 กม. dji.com. (Matrice 4T ใช้เลนส์และเลเซอร์เดียวกัน แต่เพิ่มกล้องถ่ายภาพความร้อน 640×512 px พร้อมไฟสปอตไลท์อินฟราเรดสำหรับการมองเห็นกลางคืน ts2.tech.)
- การทำแผนที่ความเร็วสูง & AI: ออกแบบมาสำหรับการสำรวจทางอากาศอย่างรวดเร็ว กล้องมุมกว้างของ 4E มีชัตเตอร์กลไกที่รองรับการถ่ายภาพทุก 0.5 วินาทีที่ความเร็วบินสูงสุด 21 ม./วินาที enterprise.dji.com. มาพร้อมSmart 3D Captureที่สร้างโมเดล 3 มิติแบบหยาบและเส้นทางการทำแผนที่ที่เหมาะสมบนตัวคอนโทรลเลอร์โดยตรง dronelife.com. แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์AI ออนบอร์ดช่วยให้มีฟีเจอร์อย่างการตรวจจับวัตถุอัตโนมัติ (คน, ยานพาหนะ, เรือ) และการติดตาม, ระบบควบคุมความเร็วคงที่สำหรับค้นหาแบบกริด, และการทำแผนที่พื้นที่ครอบคลุมแบบเรียลไทม์ระหว่างปฏิบัติภารกิจ enterprise.dji.com dronelife.com.
- ประสิทธิภาพการบิน: บินได้นานสูงสุด 49 นาที (ไม่มีลม) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ts2.tech โดยมีระยะทางบินสูงสุด ~35 กม. ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม enterprise.dji.com. มีความเร็วสูงสุด ~21 ม./วินาที (75 กม./ชม.) และสามารถไต่ระดับได้เร็วถึง 8–10 ม./วินาที ts2.tech. ระบบส่งสัญญาณ O4 Enterprise แบบดูอัลแบนด์ของโดรนใช้เสาอากาศ 8 ต้น ให้ระยะไกลสุดถึง 25 กม. (FCC) พร้อมภาพสด 1080p ts2.tech เพิ่มระยะทาง 66% เมื่อเทียบกับลิงก์องค์กรรุ่นก่อนของ DJI
- กะทัดรัดและพกพาสะดวก: Matrice 4E มาพร้อมกับดีไซน์พับได้ น้ำหนักเพียง ~1.22 กก. (น้ำหนักขณะบินพร้อมแบตเตอรี่) ts2.tech. เมื่อพับแล้วมีขนาดประมาณ 26 × 11 × 14 ซม. – พกพาใส่เป้สะพายหลังได้จริงสำหรับปฏิบัติงานภาคสนามโดยคนเดียว แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทาง ด้วยกล้องสเตอริโอฟิชอาย 6 ตัว และเซ็นเซอร์อินฟราเรดด้านล่าง ts2.tech ช่วยให้หลบหลีกอัตโนมัติและบินได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่แคบหรือแสงน้อย
- สร้างขึ้นสำหรับองค์กร: มาพร้อมกับโมดูล RTK ในตัว เพื่อความแม่นยำในระดับเซนติเมตรและความถูกต้องในระดับการทำแผนที่ ts2.tech. อุปกรณ์เสริมใหม่ เช่น DJI AL1 Spotlight (ไฟส่องสว่าง 100 เมตร) และ AS1 Speaker (ลำโพงเสียงดัง 114 dB) สามารถติดตั้งผ่านพอร์ตขยายของโดรน enterprise.dji.com enterprise.dji.com. 4E รองรับการเชื่อมต่อกับ DJI Dock (โดรนในกล่อง) และมี E-Port สำหรับอุปกรณ์เสริมที่มีน้ำหนักสูงสุด 200 กรัม เช่น เครื่องตรวจจับก๊าซ หรือดองเกิล 4G ts2.tech. นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตัวเลือกความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง (โหมดข้อมูลภายใน, การเข้ารหัส AES-256) เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรและรัฐบาล dronelife.com dronelife.com.
- กรณีการใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสารสนเทศและผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรม Matrice 4E โดดเด่นในงานทำแผนที่ทางอากาศ, การติดตามความคืบหน้าของงานก่อสร้าง, การตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน (สายส่งไฟฟ้า, สะพาน) และการสำรวจเหมืองหรือการเกษตร geoweeknews.com. รุ่นพี่น้อง 4T มุ่งเป้าไปที่ความปลอดภัยสาธารณะ, การค้นหาและกู้ภัย, การดับเพลิง และการบังคับใช้กฎหมายด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน geoweeknews.com. โดรนทั้งสองรุ่นมี AI และความสามารถในการมองเห็นเวลากลางคืนที่ช่วยสนับสนุนการติดตามสัตว์ป่าและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ โดยให้ภาพที่ชัดเจนแม้ในเวลากลางคืนหรือหมอก (ด้วยฟีเจอร์ลดหมอกแบบอิเล็กทรอนิกส์) dronelife.com dronelife.com.
- ข้อดี: รวมเซ็นเซอร์หลายตัวไว้ในโดรนเครื่องเดียว (ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บรรทุก) ts2.tech ให้ภาพที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับขนาด (ตั้งแต่การทำแผนที่มุมกว้างไปจนถึงการซูมระยะไกล) ระยะเวลาบินนาน (≈49 นาที)ts2.tech ฟีเจอร์อัตโนมัติขั้นสูง (การตรวจจับด้วย AI, การสร้างโมเดล 3 มิติ, ระบบอัตโนมัติแบบ waypoint) และดีไซน์ที่พกพาสะดวก/พับเก็บได้ ราคาประมาณ$4,799 สำหรับรุ่น 4E พื้นฐานmeasurusa.com measurusa.com ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งหลายรายในกลุ่มองค์กรแต่ยังคงมอบเทคโนโลยีล้ำสมัย
- ข้อเสีย: ความสามารถในการบรรทุกอุปกรณ์เสริมจำกัด (~200 กรัม) สำหรับการเพิ่มเซ็นเซอร์แบบกำหนดเองglobe-flight.de – ไม่สามารถบรรทุก LiDAR หนักหรือกล้องขนาดใหญ่เหมือน DJI Matrice 350 รุ่นใหญ่ได้ กล้องที่ติดตั้งมาเป็นแบบถาวร ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เหมือนโดรนขนาดใหญ่ (แต่ชุดที่ให้มาครอบคลุมการใช้งานส่วนใหญ่) นอกจากนี้ยังไม่ทนต่อสภาพอากาศเท่าโดรนขนาดใหญ่บางรุ่น; ไม่มีการโฆษณาคะแนน IP54/55 อย่างเป็นทางการ (ผู้ใช้งานรายงานว่าสามารถบินท่ามกลางฝนเบาได้ แต่ไม่เหมาะกับฝนตกหนักเหมือน Matrice 350 ที่ได้คะแนน IP55)flymotionus.com flymotionus.com นอกจากนี้ ในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์ DJI ที่ผลิตในจีน ยังอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ – การแบนหรือข้อเสนอแบนจากรัฐบาลที่กำลังดำเนินอยู่ อาจส่งผลต่อความสามารถในการใช้งานของหน่วยงานบางแห่งgeoweeknews.com.
ภาพรวม: โดรนเรือธงรุ่นใหม่สำหรับการทำแผนที่และการตรวจสอบ
DJI Matrice 4 Series (4T ด้านซ้าย, 4E ด้านขวา) มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัด พับเก็บได้ และกล้องมัลติเซ็นเซอร์ รุ่น 4E (ขวา) เหมาะสำหรับการทำแผนที่และตรวจสอบความแม่นยำสูง ขณะที่ 4T (ซ้าย) เพิ่มกล้องถ่ายภาพความร้อนสำหรับภารกิจด้านความปลอดภัยสาธารณะgeoweeknews.com ts2.tech.
Matrice 4E ของ DJI เป็นโดรนรุ่นล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่มผลิตภัณฑ์โดรนสำหรับองค์กร โดยถือเป็น “ยุคใหม่ของการปฏิบัติการทางอากาศอัจฉริยะ” ตามที่ DJI ระบุ enterprise.dji.com. เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2025 Matrice 4E (Enterprise) เปิดตัวพร้อมกับ Matrice 4T (Thermal) ในฐานะส่วนหนึ่งของ DJI Matrice 4 Series – แพลตฟอร์ม เรือธงขนาดกะทัดรัด ที่มุ่งเป้าไปยังผู้ใช้ระดับมืออาชีพ enterprise.dji.com. แตกต่างจากซีรีส์ Matrice 300/350 รุ่นก่อนของ DJI ที่เน้นงานหนัก Matrice 4E มีขนาด เล็กและเบากว่า (น้ำหนักขณะบินประมาณ 1.2 กก.) พร้อมแขนพับได้ ทำให้พกพาสะดวกกว่ามาก ในขณะที่ยังคงบรรจุเซ็นเซอร์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงไว้ครบถ้วน ts2.tech ts2.tech. แม้จะมีขนาดเล็กลง แต่ DJI ก็ไม่ได้ลดทอนความสามารถ: Matrice 4E มาพร้อมกล้องความละเอียดสูง ระบบส่งสัญญาณระยะไกล และ AI ออนบอร์ดสำหรับการทำงานอัตโนมัติ
ข้อมูลจำเพาะหลัก ของ Matrice 4E ได้แก่ เวลาบินสูงสุดประมาณ 49 นาที (ไม่มีลม) ด้วยแบตเตอรี่อัจฉริยะ ts2.tech ความเร็วสูงสุด 21 เมตร/วินาที และระยะการใช้งานสูงสุดถึง 25 กิโลเมตร โดยใช้ระบบส่งสัญญาณ O4 Enterprise ของ DJI ts2.tech โดรนนี้ใช้ IMU คู่และ GNSS (GPS, Galileo, BeiDou) ที่เสริมด้วยโมดูล RTK เพื่อการระบุตำแหน่งในระดับเซนติเมตร ซึ่งมีความสำคัญสำหรับภารกิจทำแผนที่ระดับสำรวจ ts2.tech สำหรับการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางและการนำทางที่แม่นยำ Matrice 4E ติดตั้ง เซนเซอร์วิชั่นแบบตาปลาหกตัว (ให้การครอบคลุม 360°) พร้อมเซนเซอร์อินฟราเรดที่ด้านล่าง ts2.tech สิ่งนี้ทำให้สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบทิศทางทั้งกลางวันและกลางคืน รองรับฟีเจอร์อย่าง การเปลี่ยนเส้นทางอัตโนมัติและการกลับบ้านอย่างปลอดภัย แม้ในสภาพแสงน้อยหรือสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน dronelife.com dronelife.com ที่จริงแล้ว กล้องของโดรนนี้มีประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อยที่ดีขึ้น (รวมถึงโหมดกลางคืนที่อัปเกรด ISO) เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานในภารกิจเวลากลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การติดตามสัตว์ป่าหรือค้นหาและกู้ภัยในเวลากลางคืน dronelife.com.
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ Matrice 4E คือ ระบบกิมบอลกล้องหลายตัวแบบบูรณาการ 4E มาพร้อมกับ กล้องสามตัว + เลเซอร์เรนจ์ไฟน์เดอร์ บนกิมบอล 3 แกนที่มีระบบกันสั่น globe-flight.de อันดับแรกคือ กล้องมุมกว้าง ที่ใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด 4/3 นิ้ว (20 MP) สำหรับการถ่ายภาพทั่วไปและการทำแผนที่; ที่สำคัญ กล้องนี้มี ชัตเตอร์แบบกลไก (สูงสุด 1/2000 วินาที) enterprise.dji.com ซึ่งช่วยขจัดอาการเบลอจากการเคลื่อนไหวระหว่างการบินทำแผนที่ความเร็วสูง สามารถถ่ายภาพได้ที่ ช่วงเวลาห่างกัน 0.5 วินาที ทำให้สามารถเก็บภาพออร์โธโฟโตได้อย่างรวดเร็วแม้บินที่ความเร็ว ~21 ม./วินาที enterprise.dji.com ถัดมาคือ กล้องเทเลโฟโต้ระยะกลาง (ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 70 มม.) ใช้เซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว 48 MP dji.com ซึ่งให้ ออปติคอลซูม 3× เหมาะสำหรับการตรวจสอบระยะกลาง – ตัวอย่างเช่น DJI ระบุว่าสามารถเห็นรายละเอียดเล็กๆ เช่น สกรูหรือรอยร้าวบนโครงสร้างจากระยะ 10 ม. ได้ dji.com สุดท้ายคือ กล้องเทเลโฟโต้ (~168 มม. เทียบเท่า) พร้อมเซนเซอร์ 1/1.5 นิ้ว 48 MP ให้ ออปติคอลซูม 7× ช่วยให้โดรนสามารถเก็บรายละเอียดบนโครงสร้าง จากระยะไกลถึง 250 ม. dji.com โดยการผสมผสานระหว่างออปติคอลและดิจิทัลซูม Matrice 4E สามารถซูมแบบไฮบริดได้สูงสุด 112× สำหรับการสังเกตการณ์ระยะไกล ts2.tech ts2.tech นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ เลเซอร์เรนจ์ไฟน์เดอร์ในตัว ที่สามารถวัดระยะทางได้สูงสุด 1,800 ม. ด้วยความแม่นยำ ~±1 ม. dronelife.com thedronegirl.com ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการระบุตำแหน่งวัตถุหรือช่วยในการวัดสำรวจ
ควรสังเกตความแตกต่างระหว่าง Matrice 4E กับรุ่นพี่น้องอย่าง 4T Matrice 4T มีกล้องออปติคอลและ LRF เหมือนกัน แต่เพิ่ม กล้องถ่ายภาพความร้อนแบบรังสีวัดอุณหภูมิ (ความละเอียด 640×512, อัตราเฟรม 30 Hz) สำหรับการตรวจจับความร้อน ts2.tech โดย 4T จะเน้นไปที่ งานด้านความปลอดภัยสาธารณะ, ดับเพลิง, และค้นหา & กู้ภัย ซึ่งการตรวจจับสัญญาณความร้อนมีความสำคัญมาก geoweeknews.com นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ ไฟสปอตไลท์ NIR (ไฟส่องสว่างอินฟราเรดใกล้) ในตัว ที่สามารถส่องสว่างพื้นที่ห่างออกไป ~100 ม. ในความมืด ts2.tech เพื่อเสริมศักยภาพการทำงานในสภาพแสงน้อย/ถ่ายภาพความร้อน ส่วน Matrice 4E ตัดกล้องถ่ายภาพความร้อนและไฟอินฟราเรดออกเพื่อลดต้นทุนและน้ำหนัก โดยเน้นไปที่ งานภูมิสารสนเทศและการตรวจสอบ ซึ่งกล้องถ่ายภาพแผนที่ความละเอียดสูงและเลนส์ซูมจะเป็นประโยชน์มากกว่า geoweeknews.com ทั้งสองรุ่นใช้โครงสร้างตัวเครื่อง, แบตเตอรี่, และระบบอิเล็กทรอนิกส์หลักเดียวกัน และรองรับการใช้งานร่วมกับ DJI Dock (สำหรับระบบโดรนอัตโนมัติในกล่อง) และรีโมทคอนโทรล DJI RC Plus สำหรับงานองค์กรเหมือนกัน
ในมุมมองของ เวิร์กโฟลว์ Matrice 4E ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้งานภารกิจที่ซับซ้อนเป็นไปอย่างราบรื่น ฟีเจอร์เด่นคือ Smart 3D Capture: หลังจากบินสำรวจโครงสร้างอย่างรวดเร็ว โดรนจะสามารถสร้าง โมเดล 3 มิติแบบหยาบบนรีโมทคอนโทรล ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานประเมินพื้นที่ครอบคลุมและวางแผนเที่ยวบินตรวจสอบรายละเอียดได้ง่ายขึ้น dronelife.com จากนั้นรีโมทคอนโทรลจะสามารถตั้งค่าจุดบินและมุมกล้องที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ (หรือที่เรียกว่า “เส้นทางการทำแผนที่ที่แม่นยำ”) เพื่อเก็บภาพวัตถุหรืออาคารได้อย่างครบถ้วน dji.com ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับงานตรวจสอบเสาสัญญาณหรือผนังอาคาร – นักบินสามารถปล่อยให้โดรนคำนวณมุมถ่ายภาพที่ดีที่สุดเอง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน DJI ยังแถมสิทธิ์ใช้งาน DJI Terra (ซอฟต์แวร์ทำแผนที่) ฟรี 1 ปี สำหรับ Matrice 4E ทุกเครื่อง เพื่อให้สามารถ ประมวลผลภาพถ่ายและสร้างแผนที่ 2D/3D แบบออฟไลน์ พร้อมแก้ไขความผิดเพี้ยนของเลนส์กล้องโดรน ts2.tech
ความสามารถด้าน AI และระบบอัตโนมัติ ของ Matrice 4E ก็เป็นอีกจุดที่โดดเด่นเช่นกัน โดยสามารถจดจำและติดตามวัตถุ เช่น ยานพาหนะ บุคคล หรือเรือ ด้วย AI บนตัวเครื่อง – ทำหน้าที่เสมือน “ดวงตาคู่ที่สอง” ในภารกิจค้นหา enterprise.dji.com dronelife.com ตัวอย่างเช่น ในระหว่างภารกิจค้นหาและกู้ภัย โดรนสามารถไฮไลท์บุคคลที่หายไปหรือรถยนต์ในภาพกล้องโดยอัตโนมัติด้วยการรู้จำวัตถุ นักบินสามารถเปิดโหมด Cruise control ซึ่งโดรนจะบินด้วยความเร็วคงที่ตามกริดค้นหา ช่วยให้ผู้ควบคุมมีสมาธิกับการดูวิดีโอหรือจัดการเพย์โหลด dronelife.com หากพบสิ่งที่น่าสนใจ เพียงแตะครั้งเดียวก็สามารถเรียกใช้ “FlyTo” – โดรนจะบินไปยังจุดนั้นอย่างชาญฉลาด พร้อมปรับเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางระหว่างทาง enterprise.dji.com นอกจากนี้ เมื่อใช้งานร่วมกับแอป DJI Pilot 2 ระบบจะแสดงแผนที่สดซ้อนทับพื้นที่ที่ได้ค้นหาแล้ว (อ้างอิงจากมุมมองกล้อง) เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีพื้นที่ใดถูกมองข้าม enterprise.dji.com ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่ม การรับรู้สถานการณ์ และประสิทธิภาพภารกิจให้กับทีมความปลอดภัยสาธารณะอย่างมาก
ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือก็เป็นจุดสำคัญของ Matrice 4E เช่นกัน DJI ได้เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Local Data Mode ซึ่งจะตัดการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมดระหว่างโดรนและรีโมทคอนโทรล – ตัวเลือกสำคัญสำหรับภารกิจที่ต้องการความปลอดภัยของรัฐบาลหรือองค์กร dronelife.com โดยค่าเริ่มต้น จะไม่มีการอัปโหลดบันทึกการบิน รูปภาพ หรือวิดีโอไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ DJI เว้นแต่ผู้ใช้จะเลือกเปิดใช้งานเอง dronelife.com ข้อมูลที่จัดเก็บทั้งหมดสามารถเข้ารหัสแบบ AES-256 และ DJI ยังชี้ให้เห็นถึงการตรวจสอบความปลอดภัยโดยอิสระ (โดยบริษัทอย่าง Booz Allen Hamilton) ที่ได้ตรวจสอบระบบของตนแล้ว dronelife.com ในแง่ของความปลอดภัย โดรนรุ่นนี้มี การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางแบบแอคทีฟ 5 ทิศทาง (หน้า หลัง ซ้าย ขวา ล่าง) เพื่อให้สามารถเบรกและเปลี่ยนเส้นทางได้หากเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง dji.com นอกจากนี้ยังมี เซ็นเซอร์สำรอง (IMU คู่, เข็มทิศคู่) และ ไฟสัญญาณป้องกันการชนภายใน สำหรับการบินกลางคืน ts2.tech DJI ระบุว่า Matrice 4 series สามารถขึ้นบินได้ในเวลาเพียง 15 วินาที ในกรณีฉุกเฉิน (ด้วยการบูตและตรวจสอบตัวเองอย่างรวดเร็ว) enterprise.dji.com และแม้ไม่มี GPS ก็ยังใช้ระบบระบุตำแหน่งด้วยภาพเพื่ออัปเดตจุดกลับบ้านและกลับจุดเริ่มต้นได้อย่างแม่นยำ geoweeknews.com.
โดยสรุป DJI Matrice 4E คือ การผสานความคล่องตัวและสมรรถนะ นำความสามารถที่เคยต้องใช้โดรนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ราคา $20,000+ มาไว้ในขนาดที่ใส่เป้สะพายหลังได้ Christina Zhang ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กรของ DJI เน้นย้ำในงานเปิดตัวว่า “ด้วย Matrice 4 Series, DJI กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของการปฏิบัติการทางอากาศอัจฉริยะ…ติดตั้ง AI ให้กับโดรนองค์กรของเรา [เพื่อให้] ทีมค้นหาและกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” enterprise.dji.com สำหรับอุตสาหกรรมอย่างการสำรวจ การก่อสร้าง สาธารณูปโภค และความปลอดภัยสาธารณะ Matrice 4E คือโซลูชันครบวงจรที่ใช้งานง่ายแต่ทรงพลังพอสำหรับงานที่ท้าทาย
ข่าวสารและความเคลื่อนไหวล่าสุด (2025)
ในฐานะแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดในปี 2025 Matrice 4E ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากสื่ออุตสาหกรรมโดรน การเปิดตัวในเดือนมกราคม 2025 ได้รับการรายงานอย่างกว้างขวางโดยสื่อเทคโนโลยีและนักวิเคราะห์ UAV สำหรับองค์กร ซึ่งเน้นย้ำถึง ฟีเจอร์ AI และชุดเซนเซอร์ ของโดรนนี้ ตัวอย่างเช่น DroneLife ได้กล่าวถึงนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องของ DJI “แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงพยายามจำกัดการใช้โดรน [ที่ผลิตในจีน]” – สะท้อนให้เห็นว่าการเปิดตัว Matrice 4 Series เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสลมทางภูมิรัฐศาสตร์สำหรับ DJI dronelife.com อันที่จริง ในสหรัฐอเมริกา มีการเคลื่อนไหวทางกฎหมายเพื่อจำกัดหรือห้ามการใช้โดรน DJI ในระดับรัฐบาลกลางเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล Geo Week News ชี้ให้เห็นว่า “ขีดความสามารถและราคาของ DJI นั้นยากที่ทางเลือกในประเทศจะเทียบได้” และ Matrice 4 Series ใหม่ก็น่าจะ “ยังคงกดดัน” ต่อฝ่ายนิติบัญญัติที่ผลักดันให้มีการแบน เนื่องจากคุณค่าที่มอบให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ก่อสร้างและสำรวจ geoweeknews.com กล่าวอีกนัยหนึ่ง Matrice 4E กำลังเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่ทั้งได้รับความสนใจสูงและมีความระมัดระวัง: ผู้ใช้ในองค์กรจำนวนมากตื่นเต้นกับศักยภาพทางเทคนิคของมัน ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลบางแห่งต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านการจัดซื้อจัดจ้าง
ในด้านที่เป็นบวกมากขึ้น การรายงานข่าวต้นปี 2025 ยังเน้นไปที่ วิธีที่ Matrice 4E สามารถเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงานภาคสนามได้ สื่อประชาสัมพันธ์ของ DJI และรายงานจากผู้ใช้กลุ่มแรกๆ ได้เน้นกรณีการใช้งาน เช่น การตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าที่กล้องเทเล 168 มม. ของ 4E สามารถถ่ายภาพเสาไฟฟ้าที่อยู่ไกลได้อย่างชัดเจน หรือภารกิจทำแผนที่พื้นที่ขนาดใหญ่ที่เสร็จสิ้นในเวลารวดเร็วเป็นประวัติการณ์ด้วยช่วงเวลาถ่ายภาพ 0.5 วินาทีและความเร็วบินสูง การรวม อุปกรณ์เสริมรุ่นล่าสุดของ DJI ก็เป็นข่าวที่น่าสนใจเช่นกัน DJI AL1 Spotlight และ AS1 Speaker ที่เปิดตัวพร้อมกับ Matrice 4 มอบเครื่องมือใหม่ให้กับผู้ปฏิบัติงานสำหรับการค้นหาเวลากลางคืนและการประกาศทางอากาศ dronelife.com dronelife.com D-RTK 3 Mobile Base Station ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2025 อีกชิ้นหนึ่ง สามารถจับคู่กับ Matrice 4E เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตำแหน่งและยังสามารถใช้เป็น จุดควบคุมภาคพื้นดิน สำหรับโครงการสำรวจ enterprise.dji.com enterprise.dji.com DJI ยังได้เปิดตัว Dock 3 ในปี 2025 ซึ่งเป็นแท่นโดรนรุ่นอัปเกรดที่ Matrice 4E/T สามารถใช้สำหรับการขึ้นบิน ลงจอด และชาร์จแบบอัตโนมัติ – สะท้อนแนวโน้มของ การใช้งานโดรนอัตโนมัติในกล่อง สำหรับการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง (เหมาะสำหรับการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยหรือการตรวจสอบท่อส่ง)
ณ ปลายปี 2025 ยังไม่มีการประกาศการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ครั้งใหญ่สำหรับ Matrice 4E – ยังคงเป็นเรือธงขนาดกะทัดรัดสำหรับองค์กรของ DJI ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณว่า DJI อาจขยายตระกูล “Matrice 4” ต่อไป (Geo Week ถึงกับแหย่พาดหัวเกี่ยวกับ “Matrice 400” ในช่วงกลางปี 2025 geoweeknews.com แม้ว่าดูเหมือนจะหมายถึงซีรีส์ Matrice 4 เอง ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก) ขณะนี้เน้นไปที่การอัปเดตเฟิร์มแวร์และการสนับสนุนระบบนิเวศซอฟต์แวร์ DJI ได้ทยอยปล่อยการปรับปรุงเฟิร์มแวร์สำหรับ Matrice 4E เพื่อปรับแต่งอัลกอริทึมการรู้จำ AI และเพิ่มฟีเจอร์อย่าง Live Mission Recording (ที่ให้ผู้ใช้บันทึกภารกิจการบินทั้งภารกิจและเล่นซ้ำโดยอัตโนมัติในภายหลัง) ในด้านซอฟต์แวร์ Matrice 4E ได้รับการผสานรวมอย่างสมบูรณ์กับ DJI FlightHub 2 (สำหรับการจัดการฝูงบินและการวางแผนภารกิจบนคลาวด์) และรองรับ Mobile SDK และ Payload SDK เพื่อให้นักพัฒนาภายนอกสามารถสร้างแอปหรือเพย์โหลดแบบกำหนดเองสำหรับมันได้ ts2.tech ซึ่งหมายความว่าเราอาจได้เห็นอุปกรณ์เสริมหรือปลั๊กอินซอฟต์แวร์เฉพาะทาง (เช่น สำหรับการเกษตรแม่นยำหรือการตรวจจับก๊าซมีเทน) ที่ได้รับการรับรองสำหรับ Matrice 4E เมื่อระบบนิเวศเติบโตขึ้น
โดยสรุป การเปิดตัว Matrice 4E ถือเป็นหนึ่งใน ข่าวโดรนที่ใหญ่ที่สุดของปี 2025 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ DJI ในการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด UAV สำหรับองค์กร โดรนรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากการผสมผสานความสามารถที่ดีที่สุดของ Matrice 300 series เข้ากับความพกพาสะดวกของ Matrice 30 ที่เล็กกว่า พร้อมทั้งแนะนำเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ออนบอร์ด ประเด็น “ข่าว” หลักเกี่ยวกับ 4E ตอนนี้จึงอยู่ที่การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง – โดยเฉพาะเมื่อบริษัทฝั่งตะวันตกอย่าง Skydio และ Freefly ผลักดันทางเลือกของตนเอง พูดถึงเรื่องนี้แล้ว มาดูกันว่า Matrice 4E เปรียบเทียบกับโดรนคู่แข่งหลักในกลุ่มเชิงพาณิชย์/อุตสาหกรรมอย่างไร
DJI Matrice 4E เทียบกับโดรนองค์กรคู่แข่ง
สนามแข่งขันโดรนเชิงพาณิชย์ในปี 2025 มีการแข่งขันสูงมาก และ DJI Matrice 4E ก็เข้ามาเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่ง คู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุด ได้แก่ รุ่นที่ใหญ่กว่าของ DJI เองและโดรนองค์กรจากผู้ผลิตรายอื่น ด้านล่างนี้ เราเปรียบเทียบ Matrice 4E กับเพื่อนร่วมรุ่นที่โดดเด่นบางราย – โดยเน้นความแตกต่างใน ขนาด ความสามารถ และกรณีการใช้งานที่เหมาะสม
เปรียบเทียบกับ DJI Matrice 350 RTK (DJI)
Matrice 350 RTK ของ DJI (เปิดตัวในปี 2023) เป็นมาตรฐานเดิมสำหรับโดรนระดับองค์กร โดยพื้นฐานแล้วเป็นรุ่นอัปเกรดของ M300 มันเป็น แพลตฟอร์มขนาดใหญ่สำหรับบรรทุกของหนัก เมื่อเทียบกับ Matrice 4E โดย M350 มี น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 9.2 กก. (รวมแบตเตอรี่) flymotionus.com ขณะที่ Matrice 4E มีน้ำหนักตัวเพียง 1.2 กก. ts2.tech ซึ่งทำให้ M350 สามารถบรรทุก น้ำหนักสัมภาระได้มากกว่า – สูงสุดประมาณ 2.7 กก. สำหรับกล้องหรือเซนเซอร์ – รวมถึงกิมบอลแบบถอดเปลี่ยนได้ เช่น Zenmuse P1 (กล้องแมปปิ้งฟูลเฟรม 45 MP) หรือหน่วย L1 LiDAR ในทางตรงกันข้าม Matrice 4E มีกล้องติดตั้งถาวรและพอร์ตขยายรองรับเฉพาะอุปกรณ์เสริมขนาดเล็ก (~200 ก.) globe-flight.de หากโครงการต้องการ เช่น LiDAR หรือกล้องมัลติสเปกตรัมระดับสูง Matrice 350 จะเหมาะสมกว่าเพราะรองรับน้ำหนักสัมภาระได้มากกว่า
ในแง่ของ สมรรถนะการบิน Matrice 350 มีข้อได้เปรียบเล็กน้อยในเรื่องระยะเวลาบิน – สูงสุด 55 นาทีต่อเที่ยวบิน ในสภาพอากาศเหมาะสม flymotionus.com ด้วยแบตเตอรี่คู่ TB65 ส่วน Matrice 4E ทำได้สูงสุด 49 นาที ts2.tech ซึ่งถือว่าน่าประทับใจเมื่อเทียบกับขนาด แต่ก็น้อยกว่าเล็กน้อย โดรนทั้งสองรุ่นมีความเร็วสูงสุดใกล้เคียงกัน (~23 ม./วินาที สำหรับ M350 เทียบกับ 21 ม./วินาที สำหรับ M4E) และสามารถทนลมปานกลางได้ (M4E ทนลมได้ถึง ~12 ม./วินาที, M350 ประมาณเท่ากัน) ts2.tech โครงสร้างและเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าของ Matrice 350 ทำให้มีความเสถียรในสภาพอากาศหนักและที่ระดับความสูงมาก (รองรับการบินสูงสุด 6000 ม. ด้วยใบพัดสำหรับที่สูง) Matrice 4E ก็ไม่แพ้กันในเรื่องความสูง – สามารถบินได้ถึง 6000 ม. เช่นกัน (แต่สมรรถนะจะลดลงเมื่อเกิน 4,000 ม.) ts2.tech โดยรวมแล้ว M350 ถูกสร้างมาให้ “แข็งแกร่งเหมือนรถถัง” สำหรับสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย
จุดที่ Matrice 4E โดดเด่นกว่า M350 คือ ชุดเซ็นเซอร์และ AI โดยปกติแล้ว M350 RTK รุ่นมาตรฐานจะต้องติดตั้งเพย์โหลดเสริม เช่น Zenmuse H20T เพื่อให้ได้ความสามารถแบบมัลติ-เซ็นเซอร์ที่ใกล้เคียงกัน กล้อง H20T (เพย์โหลดหลักด้านออปติคัล/เทอร์มอลสำหรับ M300/M350) มีกล้องซูม 20 MP และกล้องไวด์ 12 MP พร้อมกล้องเทอร์มอล 640×512 candrone.com – ซึ่งมีความละเอียดฝั่งภาพน้อยกว่ากล้องของ M4E (เซ็นเซอร์ 48 MP) อย่างเห็นได้ชัด กล้องชัตเตอร์กลไกขนาด 4/3″ ของ Matrice 4E ยังเหนือกว่าสำหรับงานแมปปิ้ง เมื่อเทียบกับกล้องชัตเตอร์แบบโรลลิ่งที่ติดตั้งบน M350 ได้ โดยสรุป DJI ได้รวมเพย์โหลดไว้ภายใน Matrice 4E และทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงมากสำหรับงานตรวจสอบตั้งแต่แกะกล่อง ส่วน M350 ซึ่งเก่ากว่า ใช้ลิงก์ OcuSync 3 Enterprise (ระยะสูงสุด 20 กม.) flymotionus.com flymotionus.com ขณะที่ O4 ของ M4E ขยายระยะได้ถึง 25 กม. ทั้งคู่ใช้คอนโทรลเลอร์ DJI RC Plus ดังนั้นประสบการณ์การใช้งานภาคพื้นดินจึงคล้ายกัน แต่คอนโทรลเลอร์ของ M350 เป็นรุ่นที่ได้มาตรฐาน IP54 – ทั้งระบบ M350 ถูกสร้างมาเพื่อสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน (ตัวโดรนเองมี การป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP55 ขณะที่ M4E ไม่มีการรับรอง IP อย่างเป็นทางการ) flymotionus.com flymotionus.com M350 ยังสามารถติดตั้งเรดาร์หันขึ้นด้านบนสำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ (เช่น สำหรับงานแมปปิ้งสายส่งไฟฟ้า) flymotionus.com ซึ่ง M4E จะใช้ระบบวิชันแทน
ความแตกต่างด้านการใช้งาน: Matrice 350 RTK เหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่ต้องการ ความอเนกประสงค์และความสามารถในการบรรทุกสูงสุด – เช่น บริษัทสำรวจที่อาจบิน LiDAR วันนี้, กล้องซูม 60× พรุ่งนี้, และเพย์โหลดส่งของในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังเหมาะกับการใช้งานหนักต่อเนื่อง (บินนานในสภาพอากาศเลวร้าย ฯลฯ) ส่วน Matrice 4E มุ่งเป้าไปที่ทีมที่ให้ความสำคัญกับ ความพกพาสะดวกและระบบอัจฉริยะในตัว ผู้เชี่ยวชาญด้านแมปปิ้งสามารถพกใส่เป้ไปยังพื้นที่ห่างไกลและใช้งานได้ในไม่กี่นาที ซึ่งจะไม่ง่ายนักหากใช้กล่อง M350 ที่เทอะทะ ในหลายสถานการณ์ – การตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน, การสร้างฉากอุบัติเหตุ, การแมปหมู่บ้าน – M4E สามารถทำงานเสร็จในเที่ยวบินเดียว ในขณะที่ M350 ต้องเปลี่ยนเพย์โหลดหรือบินหลายเที่ยว เพราะ M4E มีทั้งกล้องซูม, ไวด์ และ AI toolkit ในตัว และที่ประมาณ ครึ่งราคาของชุด M350 + H20T เต็มระบบ Matrice 4E จึงเหมาะกับองค์กรที่ต้องการประหยัดงบประมาณเช่นกัน
เปรียบเทียบกับ Autel EVO Max 4T (Autel Robotics)
Autel Robotics’ EVO Max 4T เป็นคู่แข่งโดยตรงจากหนึ่งในคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ DJI เปิดตัวเมื่อต้นปี 2023 EVO Max 4T มักถูกเรียกว่าเป็นคำตอบของ Autel ต่อซีรีส์ DJI Matrice 30/300 thedronegirl.com. ในแง่ของขนาดและการออกแบบ EVO Max 4T มีความคล้ายคลึงกับ Matrice 4E มาก: เป็นโดรนแบบพับได้ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักประมาณ 1.6 กก. (3.5 ปอนด์) พร้อมโครงสร้างที่ทนต่อสภาพอากาศ (แม้จะไม่กันน้ำอย่างสมบูรณ์) thedronegirl.com. Autel 4T สามารถบินได้นานสูงสุดประมาณ 42 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และได้รับการจัดอันดับว่าสามารถปฏิบัติงานในที่สูง (สามารถบินได้ถึง ~7000 เมตร ความหนาแน่นอากาศ) thedronegirl.com. ราคาตอนเปิดตัวอยู่ในช่วงประมาณ $7,000–9,000 ขึ้นอยู่กับชุดอุปกรณ์ thedronegirl.com ซึ่งอยู่สูงกว่าราคาของ DJI สำหรับชุด Matrice 4E เล็กน้อยเพย์โหลดของ EVO Max 4T คือกิมบอลมัลติเซนเซอร์ที่คล้ายกับของ DJI มาก โดยบรรจุกล้องสามตัว + เลเซอร์เรนจ์ไฟน์เดอร์ ได้แก่ กล้องมุมกว้าง 50 MP, กล้องเทเลโฟโต้ 48 MP พร้อมซูมออปติคอล 10× (เทียบเท่าทางยาวโฟกัส ~8K), และกล้องถ่ายภาพความร้อน 640×512 thedronegirl.com thedronegirl.com. นี่คล้ายกับการจัดวางของ Matrice 4T (มุมกว้าง, ซูม, ความร้อน, เลเซอร์) ในขณะที่ Matrice 4E ไม่มีกล้องถ่ายภาพความร้อน กล้องเทเลของ Autel ให้ซูมดิจิทัลสูงสุด 160× (10× ออปติคอล + ดิจิทัล) และรูรับแสง f/2.8–f/4.8 thedronegirl.com. กล้องมุมกว้างมีความละเอียดสูงกว่า DJI เล็กน้อย (50 MP เทียบกับ 20 MP) แต่ใช้เซนเซอร์ขนาดเล็กกว่า (1/1.28″ เทียบกับ 4/3″); สามารถบันทึกวิดีโอ 4K และคาดว่าใช้ rolling shutter โดรนทั้งสองรุ่นมีเลเซอร์เรนจ์ไฟน์เดอร์ – LRF ของ Autel วัดระยะได้ ~1.2 กม. ด้วยความแม่นยำ ±1 ม. thedronegirl.com ซึ่งสั้นกว่าของ DJI ที่ 1.8 กม. เล็กน้อย ในการใช้งานจริง ทั้งสองรุ่นสามารถกำหนดระยะหรือช่วยในการเล็งเป้าหมายได้คล้ายกัน
จุดที่ Autel พยายามสร้างความแตกต่างคือเรื่อง ระบบอัตโนมัติและการป้องกันสัญญาณรบกวน โดย EVO Max 4T มาพร้อมกับสิ่งที่ Autel เรียกว่า “Autonomy Engine” ที่มี การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางรอบทิศทาง โดยใช้ การผสมผสานระหว่างเซ็นเซอร์กล้องสองตาและเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร thedronegirl.com. ด้วยเรดาร์ mmWave นี้ Autel อ้างว่าโดรน ไม่มีจุดบอด และยังสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางในที่แสงน้อยหรือฝนตก ซึ่งเซ็นเซอร์แบบออปติคัลมักมีปัญหา thedronegirl.com. (Matrice 4E อาศัยกล้องออปติคัลล้วน ๆ ในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง ดังนั้นสภาพแวดล้อมที่มืดมากอาจลดประสิทธิภาพการตรวจจับ แม้ว่ากล้องหกตัวจะครอบคลุมได้ค่อนข้างสมบูรณ์ในส่วนใหญ่ของสถานการณ์) Autel ยังชูจุดเด่นเรื่อง ฟีเจอร์ AI ขั้นสูง เช่น การจับเป้าหมาย, การติดตามวัตถุแบบเรียลไทม์ และแม้แต่ การกลับบ้านโดยไม่ใช้ GPS ที่ใช้การมองเห็นแทนหากสัญญาณ GPS หายไป thedronegirl.com. DJI Matrice 4E ก็มีความสามารถคล้ายกัน – การตรวจจับวัตถุด้วย AI, การนำทางด้วยภาพโดยไม่ใช้ GPS ฯลฯ enterprise.dji.com – ดังนั้นทั้งสองรุ่นจึงสูสีกันในเรื่องฟีเจอร์ “สมาร์ท” จุดเด่นใหม่ของ Autel คือ การสื่อสารแบบ “A-Mesh” ที่ทำให้โดรน Autel หลายตัวสามารถเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย mesh เพื่อขยายระยะควบคุมหรือประสานงานกัน (โดรนของ DJI โดยปกติจะสื่อสารกับรีโมทเท่านั้น)
ในภาคสนาม ทั้ง M4E และ EVO Max 4T ถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจคล้ายกัน เช่น งานด้านความปลอดภัยสาธารณะ (ตำรวจ, กู้ภัย), การตรวจสอบ และการทำแผนที่ โดย Autel มีจุดขายที่กล้องถ่ายภาพความร้อน (ในราคาต่ำกว่าโมเดลกล้องความร้อนของ DJI) ซึ่งอาจเหมาะกับหน่วยดับเพลิงหรือทีมค้นหาที่มีงบจำกัด ส่วน Matrice 4E ที่ไม่มีกล้องความร้อน จะเน้นที่ความยอดเยี่ยมด้านภาพและการทำแผนที่ – ชัตเตอร์แบบกลไกและเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กว่าน่าจะได้เปรียบในงาน photogrammetry นอกจากนี้ ระบบนิเวศของ DJI (แอป Pilot 2, FlightHub, Terra ฯลฯ) ยังมีความสมบูรณ์มากกว่า ในขณะที่ซอฟต์แวร์ของ Autel ยังอยู่ในช่วงพัฒนา อีกทั้งยังต้องคำนึงถึง ความเข้ากันได้และการสนับสนุน: DJI มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมขนาดใหญ่ ในขณะที่ระบบนิเวศของ Autel ยังเล็กกว่า (แต่กำลังเติบโต เช่น มี Autel Smart Controller ฯลฯ)
สรุปแล้ว Autel EVO Max 4T ถือเป็นทางเลือกที่ใกล้เคียงที่สุดกับ DJI Matrice 4T (รุ่นกล้องความร้อน) หรือ 4E หากต้องการถ่ายภาพความร้อน โดยมีฮาร์ดแวร์เซ็นเซอร์และสเปกการบินที่ ใกล้เคียงกันมาก Autel ยังเน้นเรื่อง ความเป็นส่วนตัว (ข้อมูลไม่ถูกบังคับให้อัปโหลดขึ้นคลาวด์ ฯลฯ) และข้อเท็จจริงที่ว่าไม่ใช่ DJI – ซึ่งอาจสำคัญสำหรับหน่วยงานที่กังวลเรื่องโดรนจีน (แม้ว่า Autel ก็เป็นบริษัทจีน แต่ยังไม่ถูกจับตามองเท่า DJI) Matrice 4E/4T ยังได้เปรียบเล็กน้อยในเรื่องการบูรณาการ – เช่น คอนโทรลเลอร์และแอปของ DJI อาจดูสมบูรณ์กว่า และบริการลูกค้าสำหรับองค์กรของ DJI ก็เป็นที่ยอมรับ ผู้ใช้งานมืออาชีพจำนวนมากจะเปรียบเทียบสองรุ่นนี้เคียงข้างกันสำหรับงาน เช่น หน่วยโดรนตำรวจหรือการตรวจสอบสาธารณูปโภค การแข่งขันสูสีมาก ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภค
เมื่อเทียบกับ Freefly Alta X (Freefly Systems)
Freefly Alta X อยู่ในตลาดโดรนสำหรับองค์กรที่แตกต่างออกไป: มันคือโดรนขนาดใหญ่สำหรับยกของหนัก มักใช้ในงานถ่ายภาพยนตร์ การทำแผนที่ LiDAR และงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงอื่น ๆ ในตอนแรกอาจดูเหมือนไม่ยุติธรรมที่จะเปรียบเทียบ Alta X กับ Matrice 4E – เพราะทั้งสองมีการออกแบบและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันมาก แต่เพื่อความครบถ้วน ลองมาดูว่าทั้งสองเปรียบเทียบกันอย่างไร
Freefly Alta X โดยพื้นฐานแล้วคือควอดคอปเตอร์ X8 ขนาดใหญ่แบบโคแอกเชียลที่เน้นเรื่องความสามารถในการบรรทุกน้ำหนัก สามารถยกน้ำหนักได้สูงสุด 15 กก. (33 ปอนด์) freeflysystems.com – มากกว่า Matrice 4E ถึงสองลำดับขั้นจากขีดจำกัดน้ำหนักบรรทุก 0.2 กก. ตัว Alta X เองหนักประมาณ 10 กก. (22 ปอนด์) เมื่อยังไม่บรรทุกของ และมีระยะกางปีก 2.2 เมตร (~7 ฟุต) เมื่อกางออกเต็มที่ เห็นได้ชัดว่านี่คือเครื่องสำหรับบรรทุกกล้องถ่ายภาพยนตร์ RED หรือ ARRI, เครื่องสแกน LiDAR ขนาดใหญ่ หรือเซนเซอร์เฉพาะทางหลายตัวพร้อมกัน ในขณะที่ Matrice 4E เป็นยูนิตสำเร็จรูป ไม่สามารถติดตั้งกล้อง DSLR หนักหรือกิมบอลใด ๆ ได้
ในแง่ของระยะเวลาบิน Alta X ทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับขนาด: บินได้นานถึง50 นาทีโดยไม่บรรทุกของ และประมาณ20–25 นาทีเมื่อบรรทุกของหนักทั่วไป (~5–10 กก.) freeflysystems.com bhphotovideo.com หากบรรทุกสูงสุด 15 กก. ยังสามารถบินได้ ~10–12 นาทีbhphotovideo.com ส่วน DJI Matrice 4E บินได้ ~49 นาที แต่จะต้องบรรทุกกล้องในตัว (ซึ่งมีน้ำหนักเบา) เสมอ ดังนั้น ระยะเวลาบินจึงใกล้เคียงกันในแง่ตัวเลข แต่Alta X สามารถรักษาระยะเวลาบินนั้นได้แม้บรรทุกของหนักมาก ซึ่ง Matrice ไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม Alta X ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่และไม่รองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ hot-swap ในขณะที่ Matrice 4E ใช้แบตเตอรี่ก้อนเดียวที่เปลี่ยนได้รวดเร็ว และตัวโดรนรีบูตเร็ว ลดเวลาหยุดทำงาน
ในแง่ฟีเจอร์ Alta X เป็นแพลตฟอร์มที่ต้องควบคุมเองมากกว่า ไม่มีทั้งกล้องในตัวหรือระบบ AI อัตโนมัติสำหรับงานเฉพาะทาง มันคือเครื่องมือทำงานหนักโดยแท้จริง ผู้ใช้งานจะนำไปจับคู่กับระบบกิมบอลอย่าง Movi Pro สำหรับงานถ่ายภาพยนตร์ หรือใช้ติดตั้งอุปกรณ์สำรวจต่าง ๆ คุณจะไม่ใช้ Alta X สำหรับภารกิจทำแผนที่อัตโนมัติทันที ต้องติดตั้งกล้องแผนที่และอาจต้องรวม GPS/IMU จากผู้ผลิตอื่น ในทางตรงข้าม Matrice 4E พร้อมใช้งานสำหรับงานแผนที่หรือสำรวจด้วยการกดปุ่มเดียวในแอป DJI Pilot
หนึ่งในจุดที่ Alta X แข่งขันได้คือ การใช้งานในอุตสาหกรรมและการปฏิบัติตามข้อกำหนด Alta X ผลิตโดย Freefly ในสหรัฐอเมริกาและเป็นไปตามข้อกำหนด NDAA (ได้รับการอนุมัติในรายชื่อ Blue UAS) freeflysystems.com หมายความว่า หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถใช้งานได้แม้จะมีการแบนผลิตภัณฑ์ DJI ส่วนใหญ่ ลูกค้าด้านพลังงานและกลาโหมบางรายที่ต้องใช้เพย์โหลด เช่น เซ็นเซอร์รังสีหรือกิมบอลขนาดใหญ่ เลือกใช้ Alta X ด้วยเหตุผลนี้ ตัวเครื่องแข็งแรงทนทานและสามารถบินในลมแรงและฝนเบา (มาตรฐาน IP54) ส่วน Matrice 4E ซึ่งเป็นของ DJI ถูกจำกัดการใช้งานโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และทุนรัฐบาลกลางบางประเภท อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากกลุ่มเฉพาะเหล่านั้น M4E มักถูกใช้ในงานตรวจสอบ/ทำแผนที่มาตรฐานที่ Alta X อาจเกินความจำเป็น
สรุปแล้ว Matrice 4E และ Alta X ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง: M4E เป็นเครื่องมือถ่ายภาพแบบครบวงจร สำหรับนักสำรวจ ผู้ตรวจสอบ และหน่วยกู้ภัย – มีระบบอัตโนมัติสูง ใช้งานง่าย แต่จำกัดอยู่ที่เซ็นเซอร์ในตัว ส่วน Alta X เป็นแพลตฟอร์มโดรนยกของหนัก สำหรับติดตั้งเพย์โหลดแบบกำหนดเอง – มีความยืดหยุ่นสูงในสิ่งที่สามารถติดตั้งได้ แต่ต้องการความเชี่ยวชาญในการใช้งานมากกว่า หากคุณต้องการบินกล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับสูง หรือบรรทุกเซ็นเซอร์หลายตัวพร้อมกัน (เช่น LiDAR + กล้องทำแผนที่ 100 MP + กล้องถ่ายภาพความร้อน) Alta X เป็นหนึ่งในโดรนไม่กี่รุ่นที่รองรับได้ สำหรับงานอื่น ๆ (ทำแผนที่ ตรวจสอบ ค้นหาและกู้ภัย) Matrice 4E จะคุ้มค่าและเหมาะสมกว่ามาก ในแง่หนึ่ง ทั้งสองรุ่นนี้จึงเสริมกันในตลาดมากกว่าที่จะแข่งขันกันโดยตรง
เปรียบเทียบกับ Skydio X10 (Skydio)
Skydio X10 ซึ่งเปิดตัวในช่วงกลาง/ปลายปี 2024 เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่น่าสนใจในตลาดโดรนสำหรับองค์กร Skydio มีชื่อเสียงด้าน การนำทางอัตโนมัติ – โดรนของพวกเขาโดดเด่นเรื่อง AI หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางและการติดตามเป้าหมาย Skydio X10 เป็นโดรนองค์กรขนาดกลางรุ่นแรกของบริษัท ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับซีรีส์ Matrice ของ DJI สำหรับงานด้านความปลอดภัยสาธารณะ กลาโหม และการตรวจสอบ แล้วมันเปรียบเทียบกับ Matrice 4E ของ DJI อย่างไร?
ในแง่ของ รูปแบบตัวเครื่อง Skydio X10 เป็นควอดคอปเตอร์พับได้ที่มีขนาดใหญ่กว่า M4E เล็กน้อย น้ำหนักประมาณ 2.5 กก. (5.5 ปอนด์) ขณะบินขึ้น และยาวประมาณ 35 ซม. (14 นิ้ว) เมื่อพับเก็บ skydio.com ดังนั้นยังสามารถใส่เป้สะพายหลังได้ง่าย แต่หนักกว่า Matrice 4E เกือบสองเท่า (น่าจะเพราะโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า) X10 มีระยะเวลาบินประมาณ 40 นาทีต่อแบตเตอรี่ adorama.com น้อยกว่า M4E ที่บินได้ 49 นาทีเล็กน้อย แต่ Skydio ให้ความสำคัญกับการบรรทุกอุปกรณ์เสริมที่หนักกว่า: มี ช่องติดตั้งอุปกรณ์เสริมสี่ตำแหน่ง (บน ล่าง ซ้าย ขวา) รองรับน้ำหนักรวมสูงสุด 340 กรัม skydio.com ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถติดตั้งไฟสปอตไลท์ ลำโพง ร่มชูชีพ เซ็นเซอร์เสริม ฯลฯ ได้อย่างยืดหยุ่น (M4E ของ DJI มีพอร์ตขยายเพียงหนึ่งจุด และแม้จะติดลำโพงหรือเซ็นเซอร์ขนาดเล็กได้ แต่ระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมยังมีจำกัด)
หนึ่งในคุณสมบัติหลักของ Skydio X10 คือ กล้องเปลี่ยนได้ X10 มีให้เลือกสองชุดกล้องหลัก: หนึ่งคือ กล้องสามเลนส์เน้นซูม (รวมถึงซูมแบบออปติคัลได้ถึง ~190 มม. เทียบเท่า) และอีกหนึ่งคือ กล้องไวด์เซนเซอร์ใหญ่ (เซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว) เพื่อคุณภาพภาพที่สูงขึ้น dronexl.co dronexl.co ทั้งสองชุดกล้องมีทั้งกล้องถ่ายภาพความร้อนตัวที่สอง (640×512) และกล้องไวด์มาตรฐาน แต่ปรับจูนต่างกัน: รุ่น “VT300-Z” เน้นซูม ส่วนรุ่น “VT300-L” เน้นถ่ายแสงน้อยและความละเอียด ที่สำคัญ กล้องของ Skydio อยู่บนกิมบอลที่สามารถ เอียงขึ้นด้านบน และแม้แต่พลิกกลับด้านได้ – ทำให้มองเห็นเหนือโดรน ซึ่งกิมบอลของ DJI ทำไม่ได้ (กล้อง DJI มักจะหยุดที่ระดับขอบฟ้า) dronexl.co dronexl.co ข้อเสียคือกิมบอลกล้องของ Skydio ไม่ได้ออกแบบมาให้เปลี่ยนบ่อยในสนาม (ต้องใช้เครื่องมือและสภาพแวดล้อมที่สะอาด) dronexl.co แต่ก็มีตัวเลือกให้เลือกกล้องที่เหมาะกับความต้องการของคุณขณะซื้อ
เมื่อพูดถึง ระบบอัตโนมัติและ AI Skydio ถือว่าเป็นผู้นำ X10 พัฒนาต่อจากระบบนำทางด้วยภาพที่ไร้คู่แข่งของ Skydio: มีกล้องนำทางหลายตัวและ AI บนบอร์ดของ Skydio ที่สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางอย่างรวดเร็ว ติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหว และแม้แต่ สร้างแผนที่ 3 มิติของสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ด้วยตัวเอง เพื่อวางแผนเส้นทาง skydio.com skydio.com Matrice 4E ของ DJI ก็มีระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางขั้นสูงเช่นกัน แต่ของ Skydio อาจถือว่าก้าวหน้ากว่าเมื่อดูจากประวัติ (โดรนสามารถบินผ่านป่าได้เองด้วยความเร็ว) X10 ยังมีตัวเลือก Docking Station และ ควบคุมระยะไกลผ่าน 5G โดยอวดอ้างว่า “ระยะไกลไม่จำกัด” ตราบใดที่มีสัญญาณเซลลูลาร์ skydio.com skydio.com หากไม่มีสัญญาณเซลล์ ระยะวิทยุมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 12 กม. (7.5 ไมล์) dronexl.co – สั้นกว่า DJI แต่ Skydio คาดว่าผู้ใช้ระดับองค์กรจำนวนมากจะใช้ลิงก์ 5G เพื่อบิน BVLOS จากที่ใดก็ได้ Matrice 4E ยังไม่มีตัวเลือกควบคุมผ่าน 4G/5G อย่างเป็นทางการทั่วโลก (แม้ในบางภูมิภาค DJI จะมีดองเกิลเซลลูลาร์) โดยเน้นที่ลิงก์วิทยุแบบดั้งเดิมและการใช้งานในสถานที่
ตัวสร้างความแตกต่างอีกประการหนึ่งคือ การวางตำแหน่งตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ: Skydio เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกา และ X10 ถูกทำตลาดในฐานะแพลตฟอร์ม NDAA-compliant, Blue UAS สำหรับการใช้งานของรัฐบาล ออกแบบโดยคำนึงถึง ความปลอดภัยทางไซเบอร์และความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ Skydio X10 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหน่วยงานที่ถูกห้ามซื้อ DJI Skydio ยังเน้นเรื่องความง่ายในการใช้งาน: ซอฟต์แวร์ Skydio Portal/Flight Deck ของพวกเขารวมฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น แอปสแกน 3 มิติ การจัดการคลาวด์ ฯลฯ คล้ายกับอีโคซิสเต็มของ DJI แต่มีประสบการณ์ผู้ใช้ในแบบของ Skydio
เมื่อเปรียบเทียบกับ Matrice 4E Skydio X10 สามารถสรุปได้ว่า: มีความ ปรับแต่งและอัตโนมัติได้มากกว่า แต่มี ระยะเวลาบินที่ปรับแต่งมาได้ไม่เต็มที่นัก และ (ในปัจจุบัน) ยังขาดกล้องชัตเตอร์แบบกลไกสำหรับงานแมปปิ้งความแม่นยำสูง หากสถานีตำรวจต้องการโดรนที่ เจ้าหน้าที่คนใดก็สามารถบินได้ด้วยการฝึกอบรมน้อยที่สุด ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางของ Skydio ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก – ชนยากมาก หากบริษัทสำรวจต้องการผลลัพธ์โฟโตแกรมเมทรีที่ดีที่สุด กล้อง 20 MP 4/3” พร้อมชัตเตอร์กลไกของ Matrice 4E น่าจะให้แผนที่ที่คมชัด ปราศจากความบิดเบือนมากกว่า ภาพจาก Skydio (เซนเซอร์ 1/2” หรือ 1” ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) อาจไม่ถึงระดับงานแมปปิ้งนั้นหากไม่ใช้เวิร์กโฟลว์สแกน 3 มิติที่ช้ากว่า
กรณีการใช้งาน: Skydio X10 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ การตรวจสอบโครงสร้างที่ซับซ้อน (สามารถบินเข้าใกล้และรอบสิ่งกีดขวางได้อย่างมั่นใจ) ภารกิจทางยุทธวิธีที่อาจต้องบินผ่านประตูหรือซอกตึกในเมือง และทุกสถานการณ์ที่ให้ความสำคัญกับ ความอัตโนมัติแบบไม่ต้องควบคุมตลอดเวลา (เช่น สามารถตั้งให้บินวนรอบจุดสนใจโดยหลีกเลี่ยงการชน) Matrice 4E ก็สามารถทำงานคล้ายกันได้ แต่ต้องใช้ทักษะนักบินและความระมัดระวังมากกว่าเล็กน้อยในพื้นที่แคบ เพราะระบบหลีกเลี่ยง แม้จะดีมาก แต่ก็ยังไม่ถึงระดับคาดการณ์ล่วงหน้าแบบ Skydio นอกจากนี้ ช่องติดตั้งอุปกรณ์เสริม ของ X10 หมายความว่าคุณสามารถติดกล้องด้านบนเพื่อมองขึ้น (เหมาะกับการตรวจสอบสะพาน) หรือเพิ่มลำโพงหรือกลไกปล่อยของได้ง่าย – ขณะที่ DJI 4E ต้องดัดแปลงเองสำหรับงานแบบนี้และไม่สามารถมองขึ้นได้เพราะข้อจำกัดของกิมบอลกล้อง
ในแง่ของราคา Skydio X10 เป็นระบบระดับพรีเมียม (ราคาขึ้นกับการกำหนดค่า แต่โดยทั่วไปอยู่ในช่วงเดียวกับโดรนองค์กรระดับสูง หรืออาจสูงกว่า Matrice 4E) การเลือก Matrice 4E หรือ Skydio X10 อาจขึ้นอยู่กับ ปรัชญาการปฏิบัติงาน: DJI ให้ แพ็กเกจที่อัดแน่นด้วยเซนเซอร์มากกว่าเล็กน้อยตั้งแต่แกะกล่อง และอินเทอร์เฟซที่เป็นที่รู้จักดี; Skydio ให้ แพลตฟอร์มที่ปรับตัวได้พร้อมความอัตโนมัติที่ไร้คู่แข่ง และสอดคล้องกับข้อกำหนดของสหรัฐฯ ทั้งสองถือเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับปี 2025
กรณีการใช้งานหลักและอุตสาหกรรมเป้าหมาย
DJI Matrice 4E ถูกออกแบบมาให้เป็น ขุมพลังอเนกประสงค์ สำหรับงานโดรนเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท กรณีการใช้งานหลักและอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จาก Matrice 4E ได้แก่:
- การสำรวจทางอากาศและการทำแผนที่: ด้วยกล้องมุมกว้างความละเอียดสูง (20 MP, 4/3 CMOS) และชัตเตอร์แบบกลไกที่ให้ภาพปราศจากความบิดเบือน M4E จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโฟโตแกรมเมตรีความแม่นยำสูง นักสำรวจสามารถใช้เพื่อสร้างแผนที่ออร์โธโมเสก โมเดลภูมิประเทศดิจิทัล และการสร้างแบบจำลอง 3 มิติของไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยช่วงเวลาถ่ายภาพที่รวดเร็ว 0.5 วินาที และความสามารถในการถ่ายภาพหลายมุม (เอียง) ในเที่ยวบินเดียว ช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการทำแผนที่พื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างมาก enterprise.dji.com ts2.tech อุตสาหกรรมอย่างก่อสร้าง เหมืองแร่ และการวางผังเมืองสามารถใช้ความสามารถเหล่านี้เพื่อติดตามความคืบหน้า คำนวณปริมาตร (กองวัสดุ งานดิน) และสร้างแผนที่ล่าสุด ระบบ RTK ในตัวช่วยให้ภาพถ่ายสามารถอ้างอิงพิกัดทางภูมิศาสตร์ได้อย่างแม่นยำในระดับเซนติเมตร มักไม่จำเป็นต้องใช้จุดควบคุมภาคพื้นดินจำนวนมากในโครงการสำรวจ ts2.tech.
- การตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน (สาธารณูปโภค โทรคมนาคม ขนส่ง): Matrice 4E โดดเด่นในการตรวจสอบสายไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์ สะพาน กังหันลม และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอื่น ๆ กล้องซูมคู่ช่วยให้ผู้ตรวจสอบสามารถลอยอยู่ในระยะปลอดภัยและยังคงเห็นรายละเอียดใกล้ชิดของชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ เช่น ตรวจสอบความเสียหายบนสายไฟแรงสูง หรืออ่านหมายเลขซีเรียลบนเสาสัญญาณโทรศัพท์ DJI ระบุโดยเฉพาะถึงความสามารถในการเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ เช่นน็อตหรือรอยร้าวจากระยะ 10 เมตร ด้วยเลนส์ 70 มม. และอ่านรายละเอียดที่ระยะ 250 เมตรด้วยเลนส์เทเล 7× dji.com เครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์มีประโยชน์สำหรับการวัดระยะห่างถึงจุดที่สนใจ (เช่น ระยะห่างของต้นไม้จากสายไฟ) ด้วยSmart Inspection ของ Matrice 4E ผู้ปฏิบัติงานสามารถตั้งโปรแกรมเส้นทางการตรวจสอบอัตโนมัติ (เช่น บินวนรอบเสาและถ่ายภาพในมุมที่กำหนด) ซึ่งช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอและความปลอดภัย – งานตรวจสอบที่เคยต้องใช้รถกระเช้าหรือปีนขึ้นไป สามารถทำได้ด้วยโดรน อุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ สาธารณูปโภคไฟฟ้า (ตรวจสอบสายส่ง) บริษัทโทรคมนาคม (ตรวจสอบเสา) วิศวกรโยธา (สำรวจสะพานและโครงสร้างพื้นฐาน) และน้ำมัน & ก๊าซ (ตรวจสอบท่อส่งและปล่องเผา)
- ความปลอดภัยสาธารณะและการค้นหา & กู้ภัย: แม้ว่า Matrice 4T ที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพความร้อนจะเน้นไปที่ความปลอดภัยสาธารณะโดยตรงมากกว่า แต่ Matrice 4E ก็ยังสามารถมีบทบาทสำคัญสำหรับตำรวจ หน่วยดับเพลิง และหน่วยกู้ภัยได้เช่นกัน ฟีเจอร์ตรวจจับวัตถุด้วย AI ของมันสามารถช่วยในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย โดยตรวจจับยานพาหนะหรือบุคคลสูญหายบนฟีดกล้องโดยอัตโนมัติ enterprise.dji.com dronelife.com ความสามารถของโดรนในการทำแผนที่พื้นที่ค้นหาแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์มั่นใจได้ว่าครอบคลุมพื้นที่enterprise.dji.com สำหรับการใช้งานของตำรวจหรือความมั่นคง กล้องซูมของ Matrice 4E สามารถให้การเฝ้าระวังจากที่สูง เช่น การตรวจตราฝูงชนขนาดใหญ่ หรือช่วยติดตามผู้ต้องสงสัยจากทางอากาศ อุปกรณ์เสริมอย่างลำโพงช่วยให้ตำรวจประกาศคำสั่งระหว่างปฏิบัติการ และไฟสปอตไลท์สามารถส่องเป้าหมายในเวลากลางคืน (แต่สปอตไลท์ AL1 เป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม) นักดับเพลิงสามารถใช้ 4E ในการทำแผนที่ขอบเขตไฟป่าหรือสำรวจความเสียหายของโครงสร้างที่เกิดไฟไหม้ (แต่ถ้าต้องการมองทะลุควัน/ความร้อนจะเหมาะกับ 4T ที่มีกล้องถ่ายภาพความร้อนมากกว่า) โดยรวมแล้ว หลายหน่วยงานชื่นชมการนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วและพกพาสะดวก – เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวสามารถพกโดรนในเป้สะพายหลังและปล่อยขึ้นบินเพื่อสำรวจสถานการณ์จากมุมสูงได้ภายในไม่กี่นาทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- งานก่อสร้างและวิศวกรรม: บริษัทก่อสร้างใช้ Matrice 4E สำหรับการตรวจสอบไซต์งาน การสร้างโมเดล 3 มิติ และการติดตามความคืบหน้า ด้วยฟีเจอร์สร้างโมเดล 3 มิติของโดรน ผู้จัดการไซต์สามารถสร้างโมเดลโครงสร้างอาคารใหม่แบบคร่าวๆ ได้ทันทีเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าหรือหาความคลาดเคลื่อน แผนที่ความละเอียดสูงสามารถสร้างขึ้นเป็นรายสัปดาห์เพื่อซ้อนทับกับแผนการออกแบบ (เช่น ค้นหาข้อผิดพลาดในการปรับระดับหรือวัดปริมาตรกองวัสดุ ฯลฯ) Matrice 4E ยังสามารถใช้ตรวจสอบพื้นที่ที่เข้าถึงยากของงานก่อสร้าง เช่น งานหลังคาอาคารสูง เพื่อการตรวจสอบคุณภาพ ความสามารถในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสัญญาณ GNSS ด้วยระบบวิชั่น (เช่น ใต้โครงสร้างที่กำลังก่อสร้างหรือสะพาน) มีประโยชน์มากในไซต์งานที่สัญญาณ GPS อาจไม่เสถียร การผสานงานกับDJI Terraอย่างแข็งแกร่ง หมายความว่าข้อมูลจาก 4E สามารถแปลงเป็นโมเดล CAD หรือออร์โธที่ใช้งานได้จริงสำหรับวิศวกรได้อย่างรวดเร็วmeasurusa.com measurusa.com บริษัทก่อสร้างและที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมพบว่าการใช้ Matrice 4E สามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการวัดด้วยมือหรือรอการสำรวจทางอากาศแบบมีนักบิน
- การเกษตรและการตรวจสอบสิ่งแวดล้อม: ด้วยกล้องซูมและกล้องทำแผนที่ของ Matrice 4E ทำให้สามารถนำมาใช้ในภาคการเกษตร เช่น การสำรวจพืชผลในพื้นที่ขนาดใหญ่ การตรวจสอบป่าไม้ หรือการสำรวจสัตว์ป่า แม้ว่าจะไม่ใช่โดรนเฉพาะทางด้านเกษตรกรรม (DJI มีรุ่นมัลติสเปกตรัมสำหรับตรวจสุขภาพพืช) แต่ความสามารถของ M4E ในการทำแผนที่พื้นที่หลายร้อยเอเคอร์อย่างรวดเร็วมีคุณค่าสำหรับการสร้างแผนที่ฐานของพื้นที่เกษตรหรือป่าไม้ สามารถตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานในฟาร์มที่อยู่ห่างไกล (เช่น ไซโล ท่อชลประทาน) ได้อย่างง่ายดาย สำหรับหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม Matrice 4E สามารถช่วยในการติดตามสัตว์ป่า (AI สามารถนับจำนวนสัตว์หรือระบุยานพาหนะของผู้ลักลอบล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์) การทำแผนที่การเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศ หรือแม้แต่การค้นหาจุดความร้อนของไฟป่า (หากใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนของ 4T หรือเซนเซอร์ถ่ายภาพความร้อนเสริม) การทำงานที่เงียบและระยะทางไกลทำให้เหมาะสำหรับการสำรวจระบบนิเวศที่เปราะบางโดยรบกวนน้อยที่สุด นอกจากนี้ โหมดLocal Data Modeและความสามารถในการทำงานแบบออฟไลน์ยังตอบโจทย์นักวิจัยสิ่งแวดล้อมที่ทำงานในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณข้อมูล – สามารถเก็บภาพทั้งหมดไว้ใน SD card บนตัวโดรนและนำไปประมวลผลภายหลังได้
- การบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง: หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถใช้ Matrice 4E สำหรับการเฝ้าระวังเชิงยุทธวิธีและการรับรู้สถานการณ์ ในสถานการณ์ตัวประกันหรือเหตุกราดยิง 4E สามารถบินนิ่งอย่างเงียบ ๆ ที่ระดับความสูง โดยใช้กล้องซูมถ่ายทอดภาพสดให้ผู้บังคับบัญชาบนภาคพื้นดิน ลิงก์ที่เข้ารหัสและความปลอดภัยของข้อมูลของโดรนหมายความว่าภาพที่ละเอียดอ่อนสามารถเก็บไว้โดยไม่ต้องอัปโหลดขึ้นคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ dronelife.com ในงานตำรวจประจำวัน Matrice 4E อาจถูกใช้สำหรับการสร้างแบบจำลองอุบัติเหตุ – ถ่ายภาพจากมุมสูงเพื่อสร้างโมเดล 3 มิติสำหรับวิเคราะห์ภายหลัง (ซึ่งเป็นการใช้งานหลักของ Matrice รุ่นก่อน ๆ โดยตำรวจทางหลวง) บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนอาจใช้โดรนสำหรับลาดตระเวนรอบรั้วของสถานที่ขนาดใหญ่ โดยใช้ฟีเจอร์ควบคุมความเร็วคงที่และจุดบินอัตโนมัติเพื่อให้โดรนบินตรวจตราตามแนวรั้ว ความเข้ากันได้กับ DJI Dock 3 รุ่นใหม่ยังบ่งชี้ถึงการติดตั้งถาวรที่โดรนสามารถตอบสนองต่อสัญญาณเตือนภัยโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย ด้วยอุปกรณ์เสริมอย่างลำโพง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถแทรกแซงจากระยะไกล (เช่น เตือนผู้บุกรุกผ่านลำโพง) การตอบสนองที่รวดเร็ว (ขึ้นบินใน 15 วินาที) และความสามารถในการทำงานกลางคืนทำให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับภาคส่วนนี้
โดยสรุปแล้ว อุตสาหกรรมใดก็ตามที่ได้ประโยชน์จาก “ตาในท้องฟ้า” ก็สามารถนำ Matrice 4E ไปใช้ได้ ความผสมผสานระหว่างความแม่นยำระดับทำแผนที่ ซูมสำหรับตรวจสอบ และ AI ช่วยเหลือ ขยายขอบเขตการใช้งาน ตั้งแต่บริษัทเหมืองแร่ที่สำรวจหลุมเหมือง ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ประเมินประกันภัยที่บันทึกความเสียหายจากภัยพิบัติ ไปจนถึงทีมวิจัยที่ติดตามสัตว์ป่าหรือภัยธรรมชาติ – Matrice 4E เป็นแพลตฟอร์มอเนกประสงค์ที่ปรับใช้ได้กับหลายภารกิจ การมี SDK สำหรับนักพัฒนาของ DJI ยังหมายความว่าสามารถผสานแอปพลิเคชันเฉพาะทาง (เช่น ตรวจจับตัวชี้วัดสุขภาพพืชเฉพาะ หรืออ่าน QR code บนหลังคา ฯลฯ) โดยบุคคลที่สามได้ts2.tech
ความเห็นและรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญ
ข้อเสนอแนะเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและรีวิวจากการทดลองใช้ DJI Matrice 4E ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวก โดยเน้นย้ำถึงฟีเจอร์อัจฉริยะและอัตราส่วนประสิทธิภาพต่อขนาด Miriam McNabb จาก DroneLife ได้เน้นย้ำถึง “เซ็นเซอร์ล้ำสมัย เครื่องมือขับเคลื่อนด้วย AI และชุดความสามารถ ที่มุ่งเน้นการยกระดับการปฏิบัติงานทางอากาศ” ในงานด้านความปลอดภัยสาธารณะและการตรวจสอบ dronelife.com ความเห็นนี้สอดคล้องกับหลายคนที่มองว่า Matrice 4E คือการรวมเทคโนโลยีโดรนล่าสุด – เปรียบเสมือน “สุดยอดนวัตกรรม” ของ DJI ในกลุ่มองค์กร (ชัตเตอร์กลไก, AI, ระยะไกล ฯลฯ) ไว้ในเครื่องเดียวในฝั่งทางการของ DJI Christina Zhang (ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์องค์กรของ DJI) ได้ให้วิสัยทัศน์สำหรับ Matrice 4 Series ว่า “ด้วย Matrice 4 Series, DJI กำลังเปิดศักราชใหม่ของการปฏิบัติงานทางอากาศอัจฉริยะ… ทีมค้นหาและกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตได้เร็วขึ้น” enterprise.dji.com คำพูดนี้ตอกย้ำจุดเน้นของ DJI ในด้าน AI และระบบอัตโนมัติ – ซึ่งนักวิจารณ์ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ความสามารถของ Matrice 4E ในการรับหน้าที่ที่เคยต้องใช้ทักษะนักบินมืออาชีพได้รับคำชมอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ผู้ฝึกสอนด้านความปลอดภัยสาธารณะกล่าวว่าฟีเจอร์อย่างโหมด Cruise และการทำแผนที่ค้นหาด้วยภาพ ช่วยลดภาระทางความคิดของนักบิน ทำให้แม้แต่นักบินโดรนมือใหม่ก็สามารถปฏิบัติภารกิจค้นหาขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในงานสัมมนาออนไลน์ด้านองค์กร นักวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศคนหนึ่งเรียก Matrice 4E ว่า “เครื่องมือในฝันของนักสำรวจ” ด้วยระบบ RTK ในตัวและการจับภาพที่รวดเร็ว ช่วยขจัดปัญหาที่โดรนรุ่นก่อน ๆ มักต้องเลือกระหว่างคุณภาพภาพกับความเร็ว
ผู้รีวิวยังกล่าวถึงตำแหน่งทางการแข่งขันของ Matrice 4E ด้วย Matt Collins จาก Geo Week News ชี้ให้เห็นว่าโดรนองค์กรรุ่นใหม่ของ DJI เปิดตัวในช่วงที่หน่วยงานสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบน แต่เขากล่าวว่า “ความสามารถและราคาของ DJI นั้นยากจะหาใครเทียบได้ในตลาดภายในประเทศ” geoweeknews.com การเปิดตัว Matrice 4E/T ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ ยิ่งขยายช่องว่างนี้ออกไป ทำให้คู่แข่งยากจะนำเสนอความคุ้มค่าเทียบเท่า ส่งผลให้ผู้ใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ DJI ต้องลำบากใจ เพราะ Matrice 4E มอบเทคโนโลยีระดับแนวหน้าคุ้มค่าราคา แต่ทางเลือกอื่นอาจมีน้อยหรือแพงกว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทอย่าง Skydio ก็มีจุดแข็งของตัวเอง (เช่น ระบบอัตโนมัติ) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ความเชื่อมั่นใน DJI เป็นประเด็น
ในด้านเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญชื่นชมรายละเอียดอย่างเช่น รูรับแสงของกล้องไวด์ที่ปรับได้ (f/2.8–f/11) ซึ่งช่วยปรับปรุงการทำแผนที่ในสภาพแสงต่าง ๆ และข้อเท็จจริงที่ว่า DJI ได้ใส่ ฟิลเตอร์ตัดแสงอินฟราเรด (IR-cut filter) ในระบบกล้องเพื่อให้ได้สีที่แท้จริงทั้งกลางวันและกลางคืน enterprise.dji.com สิ่งเหล่านี้เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ แต่สำคัญสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ คุณภาพของภาพ จากกล้องของ 4E ได้รับการกล่าวถึงว่ายอดเยี่ยมในการทดสอบเบื้องต้น ด้วยภาพซูม 48 MP ที่คมชัดและภาพมุมกว้างที่สดใส ทีมงานบริษัทไฟฟ้ารายหนึ่งรายงานว่า ด้วย Matrice 4E พวกเขาสามารถอ่านหมายเลขประจำตัวบนฉนวนของเสาไฟฟ้าแรงสูงจากระยะ 200 เมตรได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องปีนเสาไฟหรือใช้โดรนขนาดใหญ่ที่มีกิมบอลซูมสูงเท่านั้น
แน่นอนว่ายังมี ข้อวิจารณ์และข้อควรระวัง ที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวถึง หนึ่งในนั้นคือ ข้อจำกัดด้านน้ำหนักบรรทุก: ที่ปรึกษาโดรนเตือนลูกค้าว่า Matrice 4E ไม่สามารถบรรทุกเซ็นเซอร์ของบุคคลที่สามที่มีขนาดใหญ่ (≤200 กรัม) ได้ ดังนั้นหากโครงการต้องใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับก๊าซมีเทนเฉพาะทาง หรือกล้องโคโรนาเพื่อตรวจสอบสายไฟแรงสูง M4E อาจไม่รองรับ ในกรณีนี้อาจต้องใช้ Matrice 350 หรือ Flight Astro แทน อีกข้อวิจารณ์หนึ่งคือ การไม่มีระบบกล้องที่ถอดเปลี่ยนได้ – หากกล้องที่ติดตั้งมาเริ่มล้าสมัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คุณจะต้องเปลี่ยนทั้งโดรน ในขณะที่ Matrice 300/350 สามารถซื้อเพย์โหลดใหม่ได้ การออกแบบแบบ “all-in-one” นี้จึงเป็นดาบสองคม: สะดวกในตอนนี้แต่ปรับปรุงอัปเกรดได้น้อยลง นักบินบางคนยังสังเกตว่า แม้ Matrice 4E จะพับเก็บได้ แต่ก็ไม่รวดเร็วเท่า Mavic รุ่นเล็ก แขนของโดรนแข็งกว่าและต้องล็อกอย่างระมัดระวัง (คล้ายกับซีรีส์ Matrice 30) เป็นข้อสังเกตเล็กน้อยในการปฏิบัติงานที่การตั้งค่าอาจใช้เวลานานกว่าโดรนขนาดเล็กพิเศษประมาณ 1–2 นาที
ผู้นำทางความคิดในอุตสาหกรรมยังจับตาดูว่า DJI จะรับมือกับ สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ อย่างไร Brendan Schulman (อดีตรองประธานฝ่ายนโยบายของ DJI) ได้แสดงความคิดเห็นโดยทั่วไปว่า โดรนอย่าง Matrice 4E แสดงให้เห็น “ว่าทำไมการแบนผู้นำตลาดแบบเหมารวมจึงส่งผลเสียต่อผู้ใช้งาน” – เพราะผู้ใช้เหล่านั้นจะสูญเสียการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง geoweeknews.com เขาและคนอื่น ๆ สนับสนุนมาตรการด้านความปลอดภัยแทนการแบน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์อย่าง Matrice 4E สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยโดยหน่วยงานรัฐ ประเด็นถกเถียงนี้มักถูกหยิบยกขึ้นมาในเวทีผู้เชี่ยวชาญ และเป็นสิ่งที่โปรแกรมโดรนองค์กรต้องพิจารณา: จะลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัยของ DJI หรือเลือกทางเลือกที่อาจล้ำหน้าน้อยกว่า (แต่ปลอดภัยทางการเมืองมากกว่า)
โดยรวมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องกันว่า DJI Matrice 4E คือจุดเปลี่ยนเกมสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย มันนำเสนอความล้ำสมัย (AI, เซ็นเซอร์สามตัว, เวลาบินนาน) ที่ก่อนหน้านี้อาจต้องใช้โดรนหลายลำหรือระบบที่มีราคาแพงมาก แต่ตอนนี้รวมอยู่ในแพ็กเกจเดียวที่ค่อนข้างคุ้มค่า ตามที่ผู้จัดการโปรแกรมโดรนคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า “เราสามารถทำงานที่เคยต้องใช้ Phantom ทั้งวันสำหรับการทำแผนที่ และ Inspire สำหรับการตรวจสอบ ได้ในเที่ยวบินเดียวของ Matrice 4E” ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ยากที่จะมองข้าม หากองค์กรสามารถนำไปใช้งาน (และจัดการความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสม) Matrice 4E ก็พร้อมจะกลายเป็น กำลังหลักของฝูงโดรนองค์กร ในปี 2025 และหลังจากนั้น
สรุปข้อดีและข้อเสีย
เพื่อสรุป นี่คือภาพรวมสั้น ๆ ของ ข้อดีและข้อเสีย ของ DJI Matrice 4E จากฟีเจอร์และการเปรียบเทียบที่กล่าวถึงไปแล้ว:
ข้อดี:
- ชุดเซ็นเซอร์ครบวงจร: รวมเครื่องมือทำแผนที่ความละเอียดสูง, ซูม, และวัดผลไว้ในกิมบอลเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยสำหรับภารกิจส่วนใหญ่ ช่วยให้เวิร์กโฟลว์มีประสิทธิภาพ enterprise.dji.com dji.com.
- ภาพถ่ายยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับขนาด: กล้อง 4/3″ พร้อมชัตเตอร์กลไก (20 MP) ให้แผนที่คมชัดไร้เบลอ; กล้องซูมคู่ 48 MP สำหรับการตรวจสอบรายละเอียดได้ไกลถึง 250 ม. dji.com คุณภาพภาพและระยะซูมถือว่าอยู่ระดับสูงสุดในกลุ่มโดรนขนาดกะทัดรัด
- ระบบอัตโนมัติขั้นสูง & AI: AI ในตัวช่วยตรวจจับวัตถุ, ติดตาม, และวางแผนภารกิจอัตโนมัติ (Smart 3D Capture) dronelife.com dji.com ฟีเจอร์อย่างโหมด Cruise, AI spotting, และแผนที่ครอบคลุมด้วยภาพ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและใช้งานง่ายในงานที่ซับซ้อน
- เวลาบินนาน: ~45–49 นาทีต่อแบตเตอรี่ ts2.tech ซึ่งมากกว่าโดรนขนาดใกล้เคียงกันอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้นและลดความถี่ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่
- กะทัดรัด & ติดตั้งได้รวดเร็ว: น้ำหนักเบา (≈1.2 กก.) และพับเก็บได้เพื่อการขนย้ายที่สะดวก ts2.tech. สามารถติดตั้งและปล่อยบินได้ภายในไม่กี่นาที การบูตเครื่องที่รวดเร็วและดีไซน์แบบบูรณาการของ DJI ช่วยลดเวลาเตรียมงาน (สำคัญมากในสถานการณ์ฉุกเฉิน)
- การเชื่อมต่อที่แข็งแกร่ง: สัญญาณ O4 Enterprise ระยะไกลกว่า 15 ไมล์ พร้อมภาพสด 1080p ts2.tech รับประกันการเชื่อมต่อที่มั่นคงแม้ในสภาพแวดล้อม RF ที่ท้าทาย รองรับ LTE สำรองผ่านดองเกิล (อุปกรณ์เสริม) สำหรับการควบคุมระยะไกลนอกสายตา
- ศักยภาพกลางคืน/ทุกสภาพอากาศที่เหนือกว่า: เลนส์รูรับแสงกว้างและช่วง ISO ที่อัปเกรด (สูงสุด 409,600 ในกล้องเทเล) สำหรับสภาพแสงน้อย dji.com. ระบบตรวจจับ 6 ทิศทางช่วยให้บินในความมืดได้ ทนฝน/ฝุ่นระดับปานกลาง (แม้จะไม่ได้รับรอง IP อย่าง Matrice รุ่นใหญ่)
- คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของข้อมูล: มีตัวเลือกแชร์ข้อมูล, โหมดโลคอลตัดอินเทอร์เน็ต dronelife.com และการเข้ารหัส AES-256 – ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับหน่วยงานรัฐหรือองค์กรที่มีนโยบายข้อมูลเข้มงวด
- ระบบซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง: ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์องค์กรของ DJI (Pilot 2, FlightHub 2, Terra) และรองรับ SDKs ts2.tech หมายถึงใช้งานได้ทันทีสำหรับงานแผนที่, การจัดการฝูงบินบนคลาวด์ ฯลฯ และสามารถพัฒนาแอปหรือเพย์โหลดเฉพาะทางผ่าน SDK ได้
- คุ้มค่า: เมื่อพิจารณาว่ารวมเซนเซอร์หลายตัว + RTK แล้ว Matrice 4E ถือว่าราคาย่อมเยา (~5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่นพื้นฐาน) measurusa.com เมื่อเทียบกับการซื้อโดรนและเพย์โหลดแยกต่างหาก ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำกว่า (ใช้โดรนน้อยลง, แบตเตอรี่เป็นแบบแพ็คเดียวไม่ต้องใช้สองแพ็ค) และมีตัวเลือก DJI Care Enterprise สำหรับซ่อมแซม เพิ่มความคุ้มค่า
ข้อเสีย:
- ความยืดหยุ่นของเพย์โหลดจำกัด: รับน้ำหนักเพย์โหลดภายนอกสูงสุด ~200 กรัม globe-flight.de จำกัดการติดตั้งเซนเซอร์หนักหรือเฉพาะทาง ไม่สามารถติดกล้อง DSLR, LiDAR ขนาดใหญ่ หรือชุดเซนเซอร์หลายตัวนอกเหนือจากที่ติดตั้งมาแล้วได้ แนวคิดแบบสำเร็จรูปนี้ทำให้ปรับใช้กับงานเฉพาะทางได้น้อยลง
- กล้องไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ (Non-Modular Camera): กล้องที่ติดมากับตัวโดรนไม่สามารถถอดเปลี่ยนหรืออัปเกรดโดยผู้ใช้ได้ หากมีเทคโนโลยีเซนเซอร์ใหม่ออกมา คุณจะถูกผูกติดกับเพย์โหลดนี้ ในขณะที่แพลตฟอร์มคู่แข่ง (เช่น DJI M350, Skydio X10 ฯลฯ) มีตัวเลือกให้เปลี่ยนเพย์โหลดหรืออุปกรณ์เสริมเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
- ไม่กันสภาพอากาศอย่างสมบูรณ์ (Not Fully Weatherproof): ไม่มีการรับรองมาตรฐาน IP อย่างเป็นทางการ อาจทนฝนตกปรอยๆ และฝุ่นได้ (ตามการทดสอบที่มีรายงาน) แต่หากต้องบินในฝนตกหนักหรือสภาพแวดล้อมสุดขั้ว โดรนอย่าง M350 RTK (IP55) จะปลอดภัยกว่าflymotionus.com ผู้ใช้ควรระมัดระวังหากต้องบินในสภาพอากาศเลวร้าย เพราะน้ำอาจเข้าไปทำความเสียหายกับกิมบอลที่ติดตั้งมาในตัว
- ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ/การสนับสนุน (Regulatory/Support Restrictions): ในฐานะที่เป็นโดรนผลิตในจีน อาจถูกแบนหรือมีอุปสรรคในการจัดซื้อโดยหน่วยงานรัฐบางแห่งgeoweeknews.com องค์กรที่ใช้เงินทุนรัฐบาลกลางหรืออยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านความมั่นคงอาจถูกห้ามใช้งาน ไม่ว่าคุณสมบัติทางเทคนิคจะดีเพียงใดก็ตาม นอกจากนี้ควรพิจารณาวงจรการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ DJI – รุ่นองค์กรมักได้รับการสนับสนุนระยะยาว แต่หากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์แย่ลง อาจส่งผลต่อการอัปเดตเฟิร์มแวร์หรือการหาชิ้นส่วนในบางภูมิภาค
- ต้องฝึกอบรมเพื่อใช้ฟีเจอร์ได้เต็มที่ (Requires Training to Maximize Features): แม้การบินพื้นฐานจะง่าย แต่หากต้องการใช้ความสามารถ AI และการทำแผนที่อย่างเต็มที่ ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับการฝึกอบรมใน DJI Pilot 2, การวางแผนภารกิจ และการประมวลผลข้อมูล ความซับซ้อนของฟีเจอร์อาจมากเกินไปสำหรับทีมขนาดเล็กที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านโดรน (แต่จุดนี้ก็อาจใช้ได้กับโดรนองค์กรขั้นสูงทุกรุ่น)
- ไม่มีเซนเซอร์ถ่ายภาพความร้อน (ในรุ่น 4E) (No Thermal Sensor (on 4E model)): หากต้องการถ่ายภาพความร้อน ต้องเลือก Matrice 4T (ซึ่งมีราคาสูงกว่า) หรือใช้เซนเซอร์ถ่ายภาพความร้อนเสริม (ซึ่งต้องมีน้ำหนักเบามากเพราะข้อจำกัดเพย์โหลด) การเน้นเฉพาะสเปกตรัมแสงปกติของ 4E ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้ภาพความร้อน เช่น ค้นหากู้ภัยกลางคืนหรือการตรวจสอบอุตสาหกรรม คู่แข่งหรือรุ่น 4T จะตอบโจทย์นี้แต่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ข้อสังเกตเล็กน้อยในการใช้งาน (Minor Operational Quirks): ข้อสังเกตเล็กๆ ที่มีรายงาน เช่น ใช้เวลากางแขนโดรนนานกว่ารุ่นที่กะทัดรัดมาก และต้องพกแบตเตอรี่หลายก้อนสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง (แต่ละก้อนมีความจุน้อยกว่าระบบแบตเตอรี่คู่ จึงต้องเปลี่ยนบ่อยหากใช้ทั้งวัน) นอกจากนี้ การใช้ฟังก์ชัน RTK ต้องใช้อินเทอร์เน็ต NTRIP หรือสถานีฐาน D-RTK 2/3 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการความแม่นยำระดับสำรวจ
แม้จะมีข้อเสียเหล่านี้ แต่โดยรวมแล้ว DJI Matrice 4E ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพส่วนใหญ่ การเปิดตัวของมันนั้น ได้ยกระดับมาตรฐานของสิ่งที่คาดหวังได้จากโดรนเชิงพาณิชย์ขนาดกะทัดรัดในปี 2025 อย่างแท้จริง ตามที่ชื่อเรื่องได้กล่าวไว้ ขณะที่อุตสาหกรรมโดรนกำลังก้าวไปข้างหน้า ก็น่าติดตามว่า DJI และคู่แข่งจะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมในตลาดนี้อย่างไร – แต่สำหรับตอนนี้ Matrice 4E ได้สร้างตัวเองให้เป็นตัวเลือกชั้นนำสำหรับปฏิบัติการทางอากาศอัจฉริยะอย่างมั่นคง dronelife.com geoweeknews.com.
แหล่งที่มา: ข้อมูลในรายงานนี้ถูกรวบรวมจากประกาศอย่างเป็นทางการของ DJI, เว็บไซต์ข่าวอุตสาหกรรม และบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการประกาศของ DJI’s Enterprise enterprise.dji.com enterprise.dji.com, การรายงานของ DroneLife และ GeoWeek dronelife.com geoweeknews.com, รายการสเปกทางเทคนิค ts2.tech ts2.tech, และการเปรียบเทียบสินค้ากับโดรนของ Autel, Freefly และ Skydio thedronegirl.com bhphotovideo.com dronexl.co. แหล่งข้อมูลเหล่านี้ให้รายละเอียดและบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถของ DJI Matrice 4E และตำแหน่งในตลาด
ใส่ความเห็น